รับสร้างโรงงานมาตรฐาน GMP ให้ผ่านการรับรอง GMP

การสร้างโรงงานเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่หลากหลาย โดยส่วนใหญ่จะต้องมีการจัดการและควบคุมการผลิตสินค้าเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยตามกฎหมาย ดังนั้น จะแนะนำขั้นตอนการ รับสร้างโรงงานมาตรฐาน GMP ให้เข้าใจง่ายและจะช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมเพื่อเริ่มต้นการ สร้างโรงงาน และ โกดัง โครงสร้างสำเร็จรูป ได้อย่างถูกต้อง

ขั้นตอนการรับสร้างโรงงานมาตรฐาน GMP ประกอบด้วยดังนี้
– กำหนดวัตถุประสงค์และแผนการสร้าง: ก่อนที่คุณจะเริ่มสร้างโรงงาน GMP รับสร้างโรงงานมาตรฐาน GMP จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์และแผนการสร้างโรงงาน ซึ่งจะเป็นการประเมินว่าโรงงาน GMP จะใช้ในการผลิตสินค้าอะไร ซึ่งการวางแผนการสร้างโรงงานจะช่วยให้ สามารถประเมินต้นทุนการสร้างและดำเนินงานโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
– จัดทำและยื่นขออนุญาตก่อสร้าง: หลังจากที่กำหนดวัตถุประสงค์และแผนการสร้างโรงงานแล้ว ต้องจัดทำและยื่นขออนุญาตก่อสร้างโรงงาน GMP กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมควบคุมยา หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
– ออกแบบและวางแผนโรงงาน: หลังจากได้รับอนุญาตก่อสร้างโรงงาน GMP แล้ว คุณต้องออกแบบและวางแผนโรงงาน GMP ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และแผนการสร้างที่ได้กำหนดไว้ โดยการออกแบบและวางแผนโรงงาน GMP จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น พื้นที่สำหรับการผลิต ระบบการจัดการความเสี่ยง ระบบควบคุมอุณหภูมิและ
– ซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์: เครื่องจักรและอุปกรณ์เป็นส่วนสำคัญในการผลิตสินค้าในโรงงาน GMP ดังนั้นคุณต้องเลือกซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานในโรงงาน GMP โดยควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน GMP และได้รับการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

รถเครน เคลื่อนที่ทำงานอย่างไร

เคลื่อนที่ไปตามไซต์งานได้ด้วยตัวเอด้วยการใช้เครื่องจักรที่เรียบง่ายร่วมกัน เครนแบบเคลื่อนที่สามารถใช้ประโยชน์จากกลไกในการยกของหนักได้ เสากระโดง (ส่วนแนวตั้งสูงของปั้นจั่น) ได้รับการสนับสนุนจากฐานขนาดใหญ่และหนัก ซึ่งช่วยให้น้ำหนักที่เครนรับได้เมื่ออยู่บนที่สูง ที่ด้านบนของเสามีชุดแกว่งซึ่งประกอบด้วยเฟืองและมอเตอร์ซึ่งช่วยให้เครนหมุนได้ หน่วยแกว่งยังมีแขนกล (แขนทำงานแนวนอนยาว) ที่ใช้รถเข็นช่วยยกของ ตลอดจนแขนเครื่องจักรที่สั้นกว่าซึ่งมีมอเตอร์ของเครน พร้อมด้วยตุ้มน้ำหนักคอนกรีตขนาดใหญ่เพื่อช่วยปรับสมดุลของน้ำหนัก นอกจากเครื่องจักรที่เรียบง่ายเหล่านี้แล้ว เครนเคลื่อนที่ยังใช้ระบบรอก ซึ่งช่วยให้เครนยกของหนักขึ้นโดยใช้แรงน้อยที่สุด

รถเครน เคลื่อนที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง ขับเคลื่อนไปตามสถานที่ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเพื่อนำเครนไปยังไซต์งาน งานก่อสร้าง ตึกอาคารสูง จำต้องใช้ รถเครน เป็นส่วนสำคัญในการก่อสร้าง ซึ่งมีระบบขับเคลื่อน 4×4 ทำให้ง่ายต่อการสำรวจตามสถานที่ปฏิบัติงานที่สกปรกและเต็มไปด้วยกรวด โดยบังคับควบคุมด้วยล้อสามารถบังคับเลี้ยวได้เฉพาะด้านหน้า ด้านหลังเท่านั้น สามารถเอียงตัวกับน้ำหนักของการยกของหนักได้อย่างง่ายดาย จำเป็นต้องใช้ Outriggers เพื่อให้การทรงตัวและการทรงตัวของรถบรรทุกในระหว่างการยก เครนเคลื่อนที่มีแขนโยก 4 ตัวที่ยื่นออกมาจากด้านข้างรถบรรทุกและยืนบนพื้น ช่วยกระจายน้ำหนักของสินค้าและช่วยลดน้ำหนักจากรถบรรทุก รถเครนเคลื่อนที่ ประกอบด้วยสองส่วน คือส่วนบนและส่วนล่าง เชื่อมต่อกับแท่นหมุนซึ่งช่วยให้เครนสามารถเคลื่อนที่ไปทางซ้ายและขวาได้ แขนของปั้นจั่นเรียกว่าบูม และบูมของเครนแบบเคลื่อนที่ของเราประกอบด้วย 5 ส่วนที่วางอยู่ภายในกันและกัน บูมยืดไสลด์นี้สามารถขยายได้ถึง 142 ฟุต ทำให้พนักงานมีความสูงมากในการยกวัสดุในเครื่องจักรขนาดเล็กกะทัดรัด

รถเครนเคลื่อนที่คืออะไร

ปั้นจั่นเคลื่อนที่ ได้รับการออกแบบเพื่อใช้กลุ่มเครื่องจักรง่ายๆ ในการยกหรือลดวัตถุ ตลอดจนการเคลื่อนย้ายในแนวนอน เครนประเภทนี้สามารถเคลื่อนย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างง่ายดาย ทำให้เป็นตัวเลือกการเช่าที่คุ้มค่าสำหรับบริษัทก่อสร้างหลายแห่ง รถเครนเคลื่อนที่สามารถใช้ยกของหนักและเคลื่อนย้ายได้ในระยะทางสั้นๆ รวมทั้งช่วยสร้างทาวเวอร์เครนขนาดใหญ่ขึ้น

กันสาดอัตโนมัติ ออกแบบมาสำหรับสภาพแวดล้อมในประเทศไทย

กันสาดอัตโนมัติ ช่วยให้พื้นที่ของคุณมีความเป็นส่วนตัว และช่วยป้องกันแสงแดด ทำให้พื้นที่ภายนอกของคุณมีการตกแต่งที่สวยงาม ทันสมัย และทำให้คุณใช้งานพื้นที่ของคุณได้อย่างเต็มที่ กันสาดอัตโนมัติ มีลวดลาย สีสันให้เลือกมากมาย ทำให้กันสาด เหมาะกับบริเวณพื้นที่พักผ่อนที่เปิดโล่ง แบบสมัยใหม่ ทำให้แสงแดดส่องเข้ามาได้ในตอนกลางวัน ในยามค่ำคืน หรือในช่วงที่ ไม่อยู่ที่บ้าน สามารถดึงกันสาดลง เพื่อให้บริเวณนั้นมืด และมีความเป็นส่วนตัว

กำลังมองหาวิธีที่จะใช้พื้นที่ภายนอกให้คุ้มค่าที่สุดอยู่หรือเปล่า บางที อาจจะต้องการพื้นที่ในร่ม เพื่อพักผ่อนหรือสนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ หรืออาจจะต้องการขยายพื้นที่พักผ่อน ให้กว้างขึ้น กันสาดอัตโนมัติ คือ วิธีง่ายๆ ในการขยายพื้นที่พักผ่อน และมีความสุขกับการใช้ชีวิตภายนอกอาคาร โดยได้รับการปกป้องจากแสงแดด ลมและฝน

ไม่ว่าจะเป็นการให้ร่มเงากับระเบียงหรือสวนของคุณ หรือพื้นที่สันทนาการ ที่ สามารถใช้งานในทุกสภาพอากาศ กันสาดอัตโนมัติ ทำให้ สามารถใช้ประโยชน์ในพื้นที่ภายนอกอาคาร โดยไม่จำเป็นต้องทำการต่อเติมซ่อมแซมใดๆ

กันสาดอัตโนมัติ ทิ้งตัวลงมายังพื้นดิน ทำให้เกิดร่มเงาในพื้นที่ภายนอก รวมถึงบริเวณหน้าต่าง ระเบียง และชานบ้าน กันสาดชักรอกมีประโยชน์ใช้สอยหลายอย่าง และเรามีผ้าหลายชนิดให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นผ้าแคนวาส ผ้าพีวีซี หรือผ้าอะคริลิค และมีหลายรูปแบบให้เลือก
– เชือกดึงและแกน: มาพร้อมกับผ้าใบกันสาดทุกชนิด กันสาดชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะบริเวณระเบียง และชานบ้าน เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเงิน เพราะสวยงาม และใช้งานง่าย
– ลวดสลิง: ลวดสลิงช่วยให้กันสาดเลื่อนขึ้นลงได้อย่างสะดวกง่ายดาย และยึดติดอย่างแน่นหนา การชักรอกด้วยลวดสลิงทำได้อย่างง่ายดาย สายลวดทำจากเคเบิล มารีนเกรด 316 ทำให้สามารถติดตั้งกันสาดในบริเวณชายทะเลได้

รับทำวีซ่า เชงเก้น การเดินทางเข้า–ออกประเทศในแถบยุโรป

เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวเมื่อไหร่ หลายคนมักจะแพลนไปเที่ยวยุโรปเพราะอยากไปสัมผัสความหนาวและหิมะสีขาวกับสถาปัตยกรรมสวย ๆ รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามราวภาพฝัน แน่นอนว่า หลายประเทศในยุโรปต้องขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) เพื่อให้ สามารถเดินทางเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบาย และไปได้หลายประเทศในทริปเดียว

วีซาเชงเก้น เป็นวีซ่าที่ใช้ในการเดินทางเข้า–ออกประเทศในแถบยุโรป ที่มีข้อตกลงร่วมกันว่า รับทำวีซ่า บุคคลที่ได้รับวีซ่าเชงเก้นจะสามารถเดินทางไปยัง 26 ประเทศในยุโรปได้ รับทำวีซ่า โดยไม่ต้องขอวีซ่าที่ชายแดนของแต่ละประเทศ ซึ่งได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก สาธารณรัฐเช็ก ฟินแลนด์ เอสโทเนีย ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สโลวีเนีย สเปน สวีเดน และสวิสเซอร์แลนด์

วีซ่าเชงเก้น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวยุโรปหลายประเทศในทริปเดียว โดย รับทำวีซ่า สามารถยื่นคำร้องขอวีซ่าแบบเดินทางเข้า–ออกครั้งเดียว หรือเดินทางเข้า–ออกหลายครั้ง ทั้งนี้ สำหรับวีซ่าเดินทางเข้า-ออกหลายครั้งนั้น มีข้อกำหนดไว้ว่าคุณสามารถเดินทางไปยังประเทศในกลุ่มเชงเก้นและใช้เวลาในประเทศเหล่านั้นรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 90 วัน ภายในระยะเวลา 180 วัน (ประมาณ 6 เดือน) โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้าประเทศในกลุ่มสัญญาเชงเก้น โดยประมวลกฎหมายเกี่ยวกับวีซ่าของประเทศในเขต EU (810/2009) ระบุถึงเงื่อนไขในการอนุมัติวีซ่าเชงเก้นไว้ ดังนี้
– จะต้องเดินทางออกจากประเทศในเขตเชงเก้นก่อนวีซ่าจะหมดอายุ
– จะต้องมีเงินเพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในขณะที่อยู่ในประเทศ และชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเดินทาง
– การยื่นคำร้องขอวีซ่าประเภทพำนักระยะสั้น ไม่สามารถยื่นเอกสารล่วงหน้าเกินกว่า 90 วันก่อนเดินทาง
– คุณต้องยื่นเอกสารในการสมัครวีซ่าเชงเก้นอย่างน้อย 15 วัน ตามปฏิทินก่อนวันที่ประสงค์จะเดินทาง โดย VFS Global จะเป็นสำนักงานตัวแทนที่รับผิดชอบในการรับและคืนหนังสือเดินทางสำหรับการยื่นเอกสารสมัครวีซ่าระยะสั้น
– ผู้ที่เดินทางบ่อย ๆ และมีประวัติการเดินทางที่ดีจะได้รับวีซ่าสำหรับเข้าออกหลายครั้ง ซึ่งจะมีอายุยาวนานขึ้นในแต่ละครั้งที่ขอ โดยเริ่มจาก 1 ปี จนถึงมากที่สุด 5 ปี
– เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขการเข้าประเทศของนักเดินทางแต่ละคนอย่างละเอียด ส่วนคนที่ไม่เคยมีประวัติเสียนั้นจะได้รับวีซ่าสำหรับเข้าออกหลายครั้งที่มีอายุการใช้งานนาน
– ผู้ถือวีซ่าสำหรับเข้า-ออกหลายครั้ง สามารถเดินทางเข้ามาใน EU ได้ไม่จำกัดครั้งตลอดระยะเวลาที่วีซ่ายังไม่หมดอายุ

รับซ่อมปั๊มลม เปลี่ยนอะไหล่ ดูแลรักษาปั๊มลม เป็นอย่างดี

ปั๊มลม เป็นเครื่องกำเนิดแรงดันลม โดยใช้ไฟฟ้าขับเคลื่อนมอเตอร์ ให้หมุนลูกสูบภายในอัดแรงดันลมเข้าถังพักลม หรืออุปกรณ์โดยมีตัวกั้นลมไม่ให้ย้อนกลับเข้าลูกสูบหรือ Check Valve เป็นตัวปิดไม่ให้ลมไหลย้อนกลับ และลมจะถูกเพิ่มกำลังอัดเข้าไปเรื่อยๆ

ปั้มลมจะประกอบด้วยอุปกรณ์หลักๆ ดังนี้

1.มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นตัวขับการเคลื่อนการหมุนของลูกสูบ
2.ชุดลูกสูบสร้างแรงดันลม และตัวระบายความร้อน

วิธีการเลือกปั้มลมที่มีคุณภาพ

การเลือกปั้มลมนั้นต้องศึกษาหาความรู้กันบ้าง เพราะรูปแบบของปั้มลมสมัยนี้เหมือนกันหมด รับซ่อมปั๊มลม โดยอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะผลิตมาจากแหล่งใกล้ๆ กันไม่ว่าจะเป็นตัวมอเตอร์ และอุปกรณ์ต่างๆ จึงต้องเจาะลึกกันถึงภายใน ถึงจะรู้ความแตกต่างของปั้มลมว่าแบบไหนมีคุณภาพ แบบไหนไม่มีคุณภาพ

เลือกปั้มลมแบบไหนดี

เลือกปั้มที่มีแบบมอเตอร์ใหญ่ๆ ไว้ก่อน เพราะลูกสูบจะเล็กหรือใหญ่ ก็ได้ลมที่ดีและเร็ว แต่ถ้าเลือก มอเตอร์เล็ก ก็ต้องดูว่าชุดลูกสูบเล็กตามด้วยหรือเปล่า หรือไปดูรายละเอียดการใช้งานว่าปั้มลมตัวนี้ อัดลมได้สูงสุดเท่าไหร่ กี่ Amps หรือกี่ลิตรต่อนาที ไม่อย่างนั้น ถ้าเราพยายามใช้ให้อัดลมเกินกำหนดที่ชุดลูกสูบ กับมอเตอร์จะรับได้ มันจะกินโหลดจนอุปกรณ์ภายในไหม้และเสียหายได้ สังเกตุว่าจะได้ยินข่าว ก้านลูกสูบหัก ตูดปั้มเกิดละลายอยู่บ่อยครั้งเพราะใช้กันอย่างผิดๆ

วิธีการเลือกปั้มลม

1.ให้ดูขนาดปั้มลมภายนอก
รับซ่อมปั๊มลม ให้สังเกตุขนาดของปั้มลมภายนอกก่อนเลยว่าตัวมอเตอร์ใหญ่หรือเล็ก เพราะมอเตอร์ที่ใหญ่จะให้กำลังอัดที่ดีและต่อเนื่อง เวลาอัดแรงดันลมเข้าตอนปลาย ( จาก 120 – 150 PSI ) จะกำลังอัดลมจะไม่ตกลง และจะอัดลมเข้าไปได้อีกเรื่อยๆ อย่างมีความเสถียร และขึ้นได้อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว

ถ้ามอเตอร์เล็กส่วนใหญ่ก็จะระบุอยู่แล้วว่า MAX PSI ของปั้มลมได้ 100 PSI หรือมากกว่าเล็กน้อย ก็ถือว่าสมเหตุสมผล แต่ถ้ามอเตอร์เล็กแล้วโฆษณาว่าอัดได้ 200 psi ก็ต้องไปดูกันว่าชุดลูกสูบเล็กตามไปด้วยหรือป่าว รับซ่อมปั๊มลม ถ้าชุดลูกสูบเล็กจะไม่กินแรงมอเตอร์ และจะอัดแรงดันลมได้ Pressure ที่สูงกว่า แต่ปริมาณลมที่เข้าจะน้อยกว่า ลมจะช้ากว่าแบบชุดลูกสูบที่มีขนาดใหญ่

ขายฝากที่ดิน เมื่อต้องการใช้เงินเร่งด่วน

สำหรับคนที่มีทรัพย์สินเป็นที่ดินไว้ในครอบครองแล้วไม่อยากขายขาด นอกจากจำนองที่ดิน ยังมีการขายฝากที่ดิน ซึ่งอนุมัติเร็ว ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เนื่องจากการทำสัญญาฝากขายที่ดิน ไม่จำเป็นต้องเช็กประวัติแบล็คลิสต์ เครดิตบูโร หรือรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร (Statement) สามารถไถ่คืนที่ดินได้ และยังใช้ประโยชน์ในที่ดินต่อไปได้ แต่เนื่องจากเป็นการทำสัญญา จึงต้องมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาขายฝากที่ดินคืออะไร สิ่งที่ต้องระบุให้ชัดในสัญญา

หลักการดำเนินการมีความสอดคล้องและคล้ายคลึงเป็นอย่างมาก เราจะใช้วิธีแบบไหน จึงจะปลอดภัยกับการทำข้อตกลงกับผู้จะซื้อหรือผู้จะขายมากที่สุด ซึ่งการขายฝากที่ดินคืออะไร? แล้วจํานองกับขายฝากต่างกันอย่างไร? ซึ่ง ขายฝากที่ดิน มีมาตรการดำเนินการอย่างไรบ้าง

การขายฝากที่ดินคืออะไร
การขายฝาก คือ การทำสัญญาโดยใช้ทรัพย์สินของผู้ขายฝาก มาเป็นหลักประกันชำระหนี้แก่ผู้รับซื้อฝาก ซึ่งการทำสัญญาณจะดำเนินการ ณ สำนักงานที่ดิน โดยทรัพย์สินที่มีการขายฝาก จึงแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
– ทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน ที่สวน คอนโดมิเนียม บ้านประเภทต่างๆ หรือ ขายฝากบ้านพร้อมที่ดิน
– ทรัพย์สินประเภทสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ จักรยานยนต์ เรือ และยานพาหนะอื่นๆ

จุดเด่นของการขายฝากที่ดิน
ผู้ขายฝากที่ดิน สามารถไถ่ถอนทรัพย์สินที่ตัวเองขายฝากได้ตามในระยะเวลากำหนดของสัญญาที่ตกลงกันกับผู้ซื้อฝากไว้ แต่ในขณะเดียวกัน หากผู้ฝากขายไม่สามารถไถ่ถอนคืนตามระยะเวลาที่กำหนด กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่ขายฝากทั้งหมด จะตกเป็นของผู้รับซื้อทันที
การขายฝากต่างจากการขายปกติอย่างไร

การ ขายฝากที่ดิน มีหลักประกันทางด้านความปลอดภัย และได้รับการรับการคุ้มครองตามกฎหมายมากกว่าการขายปกติ อีกทั้งตัวผู้ขายฝากสามารถเลื่อนระยะเวลาชำระได้นานถึง 10 ปี (กรณีขายฝากทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์)

ขั้นตอนการขายฝาก
กระบวนการขายฝาก มีการดำเนินการ 3 ขั้นตอน ดังนี้
– ผู้ขายฝากทำการประกาศขายทรัพย์สินที่ต้องการขายฝาก โดยในรายละเอียดใบสัญญาต้องระบุ วัน ระยะเวลาสัญญาที่ต้องการไถ่ถอนให้ชัดเจนแก่ผู้ซื้อฝาก
– ผู้ขายฝากดำเนินการแลกเปลี่ยนทรัพย์สินตัวเองแก่ผู้ซื้อฝากเพื่อรับเงินสด ส่วนผู้ซื้อฝากจะได้ใบโฉนดที่ดิน หลังทั้งสองฝ่ายเซ็นสัญญาที่ ณ กรมที่ดินเสร็จเรียบร้อย
– ครบกำหนดวาระสัญญา ผู้ขายฝากที่ดินต้องนำเงินมาไถ่ถอนทรัพย์สินที่ตนเองขายฝากไว้และจ่ายดอกเบี้ยที่ค้ำประกันไว้ ส่วนผู้ซื้อฝากจะดำเนินการคืนใบโฉนดที่ดิน ในกรณีที่ผู้ขายฝากจ่ายหนี้ครบตามสัญญาที่กำหนดไว้

เช็คกันสักนิดก่อนที่จะเปิด ร้านขายอาหารสัตว์ เพื่อให้ธุรกิจไปรอด

โดยหนึ่งในตัวที่ทำให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงโต ก็คือ กลุ่มของอาหารสัตว์เลี้ยง ที่มองว่าเป็นสินค้าเชิง Emotional ที่ผู้คนยอมจ่ายให้สัตว์เลี้ยง เพราะในยุคสมัยนี้คนเลี้ยงน้องหมา แมว ก็เลี้ยงเหมือนลูก เหมือนคนในครอบครัว ก็ต้องเลี้ยงให้ดีที่สุด ให้อาหารเหมาะกับช่วงวัย และต้องมีสารอาหารครบถ้วน ซึ่งก็ทำให้อาหารสัตว์เลี้ยงเติบโตสูงที่สุดในบรรดา ธุรกิจสัตว์เลี้ยง

ร้านขายอาหารสัตว์ หรือ (Pet Shop) คือธุรกิจยอดนิยมที่ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ขายดีมีรายได้เสมอ แต่บอกเลยว่าหากคิดจะเปิดร้านขายอาหารสัตว์ทั้งที ก็ต้องทำการบ้านกันสักหน่อยถึงจะประสบความสำเร็จได้ และเหนือสิ่งอื่นใจเลย จะต้องมีใจรักในธุรกิจนี้จริง ๆ เพราะนี่คือหัวใจสำคัญในการเปิดประตูสู่ธุรกิจ Pet Shop แต่ก่อนที่จะเปิด ร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง ควรต้องเช็กลิสต์ก่อนว่า คุณเองมีคุณสมบัติและทรัพยากรเหมาะสมที่จะเปิดร้านหรือไม่ หากต้องการทราบว่าควรเช็กอะไรบ้าง ตามมาดู กันค่ะ

1. เช็กข่าวสารก่อนเปิด
ก่อนที่จะเปิด ร้านขายอาหารสัตว์ เราต้องเช็กข่าวสารก่อนว่าแนวโน้มของการเปิดร้านประเภทนี้ มีโอกาสที่จะเติบโตมากแค่ไหน เปิดไปแล้วจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปเรื่อย ๆ ได้หรือไม่

2. เช็กงบประมาณการลงทุน
คำถามของคนเริ่มต้นธุรกิจที่สงสัยกันมากที่สุดนั่นก็คือ เปิดร้าน Pet shop ลงทุนเท่าไหร่เราจะนำคำตอบมาให้เราที่ทราบนะคะ
ราคาการเช่าพื้นที่
ถ้าคุณมีพื้นที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ไม่น่ายากเกินไปที่จะเปิดร้านเลยค่ะ แต่ถ้าหากคุณต้องเช่าตึกพาณิชย์หรือเช่าพื้นที่ขายของ 1 ล็อก ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,000 – 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับทำเลด้วยนะ

ราคาการซื้อของสต็อก
การซื้อของสต็อกในร้าน ควรซื้อเยอะ ๆ ไว้ก่อน สต็อกของให้เยอะที่สุด เพื่อที่ร้านของคุณจะได้มีสินค้าครบครันตอบโจทย์ลูกค้า ราคาซื้อสินค้าจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 – 150,000 บาท

ราคาชั้นวางสินค้า/อุปกรณ์เปิดร้าน
ก่อนจะเปิดร้าน แน่นอนว่าทุกร้านต้องซื้อชั้นวางสินค้าและอุปกรณ์เปิดร้านก่อน ผู้เขียนเช็กมาให้แล้วค่ะ ราคาชั้นวางสินค้า+เคาน์เตอร์แบบครบเซต อยู่ที่ประมาณ 40,000 – 100,000+ บาท

3. เช็กข้อดีและข้อด้อย
ถ้าถามว่า เปิด ร้านขายอาหารสัตว์ ดีไหม เราจะลองลิสต์ข้อดีและข้อด้อยของการเปิดร้านประเภทนี้ขึ้นมาให้ดูกันว่าหากคุณเปิดแล้วจะมีจุดไหนควรพิจารณาบ้าง
ข้อดี เช่น
– มีความอิสระในการเลือกผลิตภัณฑ์และคัดสรรเข้ามาขายได้เอง
– ได้เป็นคนกำหนดเองทั้งหมดว่าจะเอางบไปจัดสรรไว้ตรงไหนบ้าง
– เมื่อเป็นธุรกิจของตัวเอง คุณมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ในการเสนอบริการลูกค้าในแบบที่คุณต้องการ
– บางคนอาจจะเคยมีหัวหน้าในการกำหนดทุกอย่างในการทำงาน แต่เมื่อเปิดร้านเอง คุณจะไม่ถูกจำกัดกรอบจากคนอื่น
– สินค้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เป็นสินค้าจำเป็นต้องซื้ออยู่เป็นประจำ คุณจึงจะสามารถขายได้เรื่อย ๆ
– สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยาวนาน ปรับเปลี่ยนได้ตามยุคสมัย ไม่มีตกเทรนด์

ข้อด้อย เช่น
– ค่าใช้จ่ายในการลงทุน การเปิดธุรกิจแบบนี้จะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก เพราะถ้าคุณอยากที่จะเปิดธุรกิจในขนาดเล็กที่ต้องเริ่มต้นกับค่าใช้จ่ายจำนวนน้อย ๆ มันอาจจะไม่เพียงพอกับการเปิดร้านขายอาหารสัตว์ แต่ถ้าคุณต้องการที่จะเปิดร้านแบบนี้จริง ๆ ก็มีช่องทางมากมายในการจัดหาเงินทุนสำหรับธุรกิจของคุณในสินเชื่อธนาคาร อีกอย่างต้องคำนวนรายรับ รายจ่ายให้ดีว่าเหมาะสมและคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่
– กำไร สำหรับอาหารสัตว์นั้น บริษัทจะให้กำไรอยู่ที่ 5-10% เพราะถ้าอยากให้มีกำไรที่สูงกว่านี้จะขายยาก เพราะจะเป็นราคาที่ค่อนข้างแพงสำหรับลูกค้า
– ขอบเขตของร้าน ถ้า เปิดร้านขายอาหารสัตว์ แล้วคุณตั้งใจแค่จะขายอาหารสัตว์อย่างเดียว มันคงยากที่จะเรียกลูกค้าจำนวนมากให้เข้ามาในร้านได้ สิ่งที่อยากแนะนำคือ คุณควรศึกษาเรื่อง ร้านขายอุปกรณ์สัตว์ยาสำหรับรักษาสัตว์ ให้คำปรึกษาด้านการดูแล การผสมหรือเพาะพันธุ์ รวมถึงศึกษาเรื่องอื่น ๆ เพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อที่จะได้ต่อยอดธุรกิจของคุณให้ไม่ขาดทุน แต่ยังเติบโตไปได้ในอนาคต

4. เช็กคู่แข่งรอบข้าง
คู่แข่งของคุณ มีแหล่งอื่นอีกมากมายที่ลูกค้าจะสามารถซื้ออาหารสัตว์และบริการต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น ร้านขายอาหารสัตว์ เจ้าอื่น เช็กให้ชัวร์ว่าทำเลที่ตั้งมีคู่แข่งที่เป็นร้านเพ็ทช็อปอื่น ๆ อยู่ใกล้กันหรือเปล่า หากชุมชนของคุณไม่มีร้านขายอาหารสัตว์เจ้าอื่นเลยมันก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีในการเปิดร้านบริเวณนั้น

5. เช็กความแตกต่างของร้าน
การที่คุณจะเปิด ร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยง ถ้าหากเปิดให้เหมือนกับร้านทั่วไปที่เขาเปิดกันมา แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรที่โดดเด่นให้ดึงดูดใจ ลูกค้าอาจจะคิดว่า “ซื้อร้านไหน ๆ ก็เหมือนกัน” หากคุณไม่มีอะไรที่มันแตกต่างจากคนอื่น ดังนั้นก็เป็นไปได้ยากที่เปิดแล้วยอดขายจะเป็นไปตามเป้า
– การนำผลิตภัณฑ์สินค้าหรือบริการที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้าน Pet Shop ขนาดใหญ่
– หาอะไรที่มาขายแล้วมันไม่เหมือนร้านขายอาหารสัตว์ทั่ว ๆ ไป
– หาบริการใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าและร้านอื่นไม่ทำ