การจัดทำงบประมาณ

การจัดการการเงินส่วนบุคคลและการลงทุนเป็นหัวข้อสำคัญที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินและสร้างความมั่งคั่งเมื่อเวลาผ่านไป ต่อไปนี้เป็นหลักการสำคัญที่ควรคำนึงถึง:

การจัดทำงบประมาณ: สร้างงบประมาณเพื่อติดตามรายได้และค่าใช้จ่ายของคุณ และอย่าลืมบันทึกส่วนหนึ่งของรายได้ของคุณในแต่ละเดือน สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงหนี้สินและสร้างกองทุนฉุกเฉินได้

การลงทุน: พิจารณาลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่งของคุณเมื่อเวลาผ่านไป ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้กระจายพอร์ตโฟลิโอของคุณเพื่อลดความเสี่ยง

การวางแผนเกษียณอายุ: วางแผนสำหรับการเกษียณอายุของคุณโดยการตั้งค่าบัญชีการเกษียณอายุเช่น 401 (k) หรือ IRA และมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใช้ประโยชน์จากผลงานที่ตรงกับนายจ้าง

การจัดการหนี้: หากคุณมีหนี้ ให้จัดลำดับความสำคัญของการชำระให้หมดโดยเร็วที่สุด เริ่มต้นด้วยหนี้ดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิต และพิจารณารวมหนี้ของคุณเข้ากับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ

การจัดการความเสี่ยง: ปกป้องตัวคุณเองและทรัพย์สินของคุณด้วยประกัน เช่น ประกันสุขภาพ ประกันบ้าน หรือประกันชีวิต

การวางแผนภาษี: พิจารณาการลงทุนและกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพด้านภาษีเพื่อลดภาระภาษีของคุณ เช่น การบริจาคเงินในบัญชีเกษียณอายุที่ได้เปรียบทางภาษี หรือการใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี

การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง: หมั่นเรียนรู้เกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลและการบริหารการลงทุนผ่านหนังสือ พอดแคสต์ และแหล่งข้อมูลออนไลน์ และขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินเมื่อจำเป็น

โปรดจำไว้ว่าการจัดการการเงินส่วนบุคคลและการลงทุนเป็นความพยายามในระยะยาว และต้องใช้เวลา ความอดทน และมีวินัยในการบรรลุเป้าหมายทางการเงินของคุณ

ไม่อยากกังวลเรื่องค่าโฆษณา เช็คค่าคลิกก่อนลงโฆษณาด้วย Keyword Planner

Google Ads ลงโฆษณาด้วยการเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายคลิก เมื่อมีการคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ สามารถกำหนดงบประมาณเองได้ โดยขึ้นอยู่กับการแข่งขัน เป็นช่องทางในการลงโฆษณายอดนิยมที่คุมงบค่าใช้จ่ายเองได้ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ลูกค้าต้องการสินค้าหรือบริการ ก็มักจะทำการค้นหาจากกูเกิ้ลก่อน จึงไม่ควรพลาดที่จะลงโฆษณา Google Ads แต่อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่ยังมีหลายธุรกิจมองข้ามการลงโฆษณา Google Ads ไป เพราะกลัวว่าจะไม่สามารถคุมราคาค่าคลิกได้ ไม่เป็นไปตามงบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งราคาค่าคลิกของแต่ละคีย์เวิร์ดจะแตกต่างกันไป และเราจะสามารถทราบราคาของแต่ละคีย์เวิร์ดได้เมื่อลงโฆษณา และเกิดการคลิกแล้ว ทางกูเกิ้ลจึงได้มีเครื่องมือที่ช่วยให้คุณรู้ราคาค่าคลิกจากสถิติ และยังแนะนำคีย์เวิร์ดเพิ่มเติมให้คุณได้ เครื่องมือนี้มีชื่อว่า Keyword Planner อยากแนะนำให้ทุกท่านนำไปใช้ และสำหรับเครื่องมือตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง เราจะมาอธิบายกันค่ะ

1.จำนวนการค้นหารายเดือน ระบบช่วยแสดงการค้นหาว่ามีปริมาณเท่าไร โดยที่คุณสามารถเลือกจังหวัด และช่วงเวลาที่ต้องการทราบได้ เช่นเลือกจังหวัดที่ต้องการทราบสถิติ และเลือกช่วงเวลาของปีที่ผ่านมา

2.จำนวนการแข่งขัน ส่วนนี้จะบอกเราได้ว่า คีย์เวิร์ดที่เราต้องการนั้นมีการแข่งขัน สูง กลาง หรือต่ำ ส่งผลต่อการจัดอันดับโฆษณา นำไปวิเคราะห์เพิ่มเติม และทราบจำนวนที่มีผลต่อราคาค่าคลิก

3.ราคาเสนอเบื้องต้น ราคาค่าคลิกเบื้องต้น ที่จะปรากฎในหน้าแรกของกูเกิ้ลว่ามีราคาเสนอเท่าไร สำหรับด้านบนของหน้า หรือด้านล่าง

4.แนะนำคีย์เวิร์ดเพิ่มเติมที่ใกล้เคียง สามารถนำคีย์เวิร์ดแนะนำไปใช้ได้ มีการระบุปริมาณการค้นหา และราคาค่าคลิกของคีย์เวิร์ดนั้นๆ เพิ่มคีย์เวิร์ดแนะนำเข้าสู่แคมเปญได้ในทันที

เพียงแค่ใช้เครื่องมือ Keyword Planner ทำให้ทราบได้ว่าคีย์เวิร์ดที่ต้องการมีอัตราการค้นหาเป็นที่นิยมหรือไม่ และมีราคาเสนอประมาณเท่าไร ช่วยในการวิเคราะห์ว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะนำไปใช้ จึงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมาก ไม่เพียงแต่นำไปใช้กับการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดใน Google Ads ยังสามารถนำไปใช้กับการทำ SEO ได้ด้วย อยากให้ลองนำไปปรับใช้กันดูค่ะ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมืออีกมากมายที่ช่วยให้โฆษณาของคุณไม่เสียงบประมาณเกินความจำเป็น แต่กับช่วยสร้างยอดขายได้ดีกว่าเดิม หรือคุณจะลองใช้บริการรับทำ google ads ราคาถูก กับทางเราก็ได้ค่ะ เรามีบริการแบบครบวงจรทั้ง SEO และบริการ Google Ads ทีมงานของเราพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ